นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

พ.ศ. ๒๕๖๕

โดยเป็นการสมควรให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

และพนักงานได้รับทราบและเข้าใจนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการ

การเลือกตั้งเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยและการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตระหนัก

ถึงความสำคัญและได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลว่าได้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูล

ส่วนบุคคลกำหนด

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕๑ และมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงออกประกาศไว้

ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง นโยบาย

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๕

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้

“พนักงาน” หมายความว่า พนักงานและลูกจ้างตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล

“นโยบาย” หมายความว่า หลักการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง

“เจ้าของข้อมูล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้

ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีลักษณะเป็นข้อมูล

ที่อ่อนไหว ห้ามมิให้เก็บรวบรวม โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล เนื่องจากลุ่มเสี่ยง

ต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

อันได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ สีผิว ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา รวมถึง

พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม

ข้อมูลชีวภาพ และข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจ

เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการ

เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ ๔ ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ดำเนินการเก็บรวบรวม

ใช้ และเก็บรักษา จำแนกเป็น ๔ ประเภท ดังนี้

(๑) ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งบุคลากรอื่น

ที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรักษา เช่น คำนำหน้านาม ยศ ชื่อ นามสกุล เพศ

หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลข

โทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) วุฒิการศึกษา ประวัติการทำงาน สถานภาพการเกณฑ์ทหาร

หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ชื่อบิดา ชื่อมารดา ชื่อคู่สมรส บุตร สถานที่ติดต่อ ประวัติอาชญากรรม

เลขที่ตำแหน่ง ประเภทตำแหน่ง รูปภาพบุคคล ขั้นเงินเดือน อัตราเงินเดือน เป็นต้น

(๒) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมกิจกรรมของสำนักงานคณะกรรมการ

การเลือกตั้ง รวมทั้งบุคคลภายนอกที่สมัคร อาสา หรือเข้าร่วมกับกิจกรรมที่สำนักงานคณะกรรมการ

การเลือกตั้งจัดขึ้น หรือเป็นสมาชิกเครือข่ายของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรักษา เช่น คำนำหน้านาม ยศ ชื่อ นามสกุล เพศ

หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์

อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) รูปภาพบุคคล อาชีพ หน่วยงานต้นสังกัด เป็นต้น

(๓) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายเกี่ยวกับ

การเลือกตั้งและพรรคการเมือง ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรักษา เช่น คำนำหน้านาม ยศ ชื่อ นามสกุล เพศ

หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลข

โทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) วุฒิการศึกษา ชื่อบิดา ชื่อมารดา ชื่อคู่สมรส สถานที่ติดต่อ

รูปภาพบุคคล อาชีพ ประวัติการดำรงตำแหน่ง ชื่อพรรคการเมืองที่สังกัดและการดำรงตำแหน่ง

ในพรรคการเมือง เป็นต้น

(๔)ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลทั่วไปที่เข้ามาทำธุรกรรม นิติกรรมสัญญา สมัครงาน ติดต่อ

และสอบถาม ประสานงานหรือรับบริการผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารทุกประเภทของสำนักงาน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรักษา เช่น คำนำหน้านาม ยศ ชื่อ นามสกุล เพศ หมายเลข

บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

(อีเมล) รูปภาพบุคคล อาชีพ หน่วยงานต้นสังกัด ข้อมูลและพฤติกรรมการใช้งานทางคอมพิวเตอร์ รวมถึง

การบันทึกภาพและเสียง เป็นต้น

มีดังนี้

ข้อ ๕ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ปฏิบัติตามสัญญา

(๑) เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภายในองค์กร การบริหารทรัพยากรบุคคล และ

(๒) เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(๓) เพื่อประโยชน์ในการติดต่อประสานงาน

(๔) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูล

ไม่สามารถให้ความยินยอมได้

(๕) เพื่อให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับการบริการ รวมไปถึงการควบคุมดูแล ใช้งาน

และการตรวจสอบการบริการ

(5) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ มติ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง หรือการ

ดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล

ข้อ 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการ

ที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินการหรือการให้บริการ

ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล

รับรู้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือหรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของสำนักงาน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง และการขอความยินยอมนั้นต้องแยกส่วนออกจากข้อความอื่นอย่างชัดเจน

มีแบบหรือข้อความที่เข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ รวมทั้งใช้ภาษาที่อ่านง่าย และไม่เป็นการหลอกลวงหรือทำให้

เจ้าของข้อมูลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ดังกล่าว

กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคล

ที่มีความอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

โดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

จะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้

ข้อ ๗ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งในฐานะ

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของ

ข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในการขอรับข้อมูล

ส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือเข้าข้อยกเว้นในการใช้หรือเปิดเผยข้อมูล

ส่วนบุคคล ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือเป็นกรณีที่กฎหมายอื่นกำหนด

ให้กระทำได้

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ

เจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงาน

ภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย

เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน

หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

ข้อ 4 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเก็บรวบรวมและรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น

ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลา

และข้อมูลสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะทำการลบ

ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐาน

การลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนด

หรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือคดีความ

อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไป

จนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

ข้อ ๙ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะดำเนินการจัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคง

ปลอดภัยอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลส่วนบุคคล การเข้าถึง การทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข

หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบ

ข้อ ๑๐ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะทำการเผยแพร่นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครอง

ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางเว็บไซต์ www.ect.go.th หัวข้อ “รวมกฎหมาย” หัวข้อย่อย “ประกาศ สนง.กกต.”

และจะทำการปรับปรุงหรือแก้ไขหรือทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว

เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของข้อกำหนดตามกฎหมาย รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็น

จากหน่วยงานต่าง ๆ หรือจากเจ้าของข้อมูลเอง โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศแจ้ง

การเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน ก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง

ข้อ ๑๑ เจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล

ส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลผ่านที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ pdpa@ect.go.th

โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะดำเนินการพิจารณาคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลภายในระยะเวลา

ที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครอง

ข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่อไปนี้ ได้แก่

(๑)สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ๑๒๐ หมู่ ๓ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการ

เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ ๑๐๒๑๐

(๒) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ pdpa@ect.go.th

ข้อ ๑๒ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธคำร้องขอตามข้อ ๑๑

กรณีดังต่อไปนี้

(๑) กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาล

(๒) การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพ

ของบุคคลอื่น

(๓) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อ หรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวตน

ของเจ้าของข้อมูลได้

(๔) ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูล หรือผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้อง

ขอดังกล่าว

(๕) คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูล

ส่วนบุคคลนั้นอยู่ในการครอบครองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นต้น

(5)คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกัน

หรือเนื้อหาเดียวกันซ้ำ ๆ กันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น

ข้อ ๑๓ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง รักษาการตามประกาศนี้ และมีอำนาจ

ออกประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามประกาศนี้

ในกรณีที่จะต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้เสนอคณะกรรมการ

การเลือกตั้งพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งให้เป็นที่สุด

บรรดานโยบาย ระเบียบ ข้อกำหนด ประกาศ มติ หรือคำสั่งอื่นใดของคณะกรรมการ

การเลือกตั้งซึ่งขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศนี้แทน

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

(นายแสวง บุญมี)